วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2552

บุษกร

อาทิตย์ก่อนตอนอยู่บ้านป่ากล้วย
ผมมีโอกาสรู้จักกับน้องคนหนึ่งชื่อบุษกร

เป็นเด็กชายอายุสี่ขวบ หน้าป้านป้าน ตาหยี่หยี่

เราเจอกันในวัดตอนมิสซาเย็น
ผมบอกเค้าว่า เราเป็นเพื่อนกัน

เพราะชื่อมีคำว่า กร เหมือนกัน

รุ่งขึ้นผมกับน้องน้องในหมู่บ้านเล่นซ่อนแอบกัน
มีอยู่ตาหนึ่ง บุษกร ถูกจับได้

เค้าวิ่งมาหาผมด้วยแววตาใสซื่อ แล้วตะโกนบอกผมว่า

กรูโดนโป้งแล้วหวะ ไอ้สัตว์

ผมอึ้งและงงครับ

ซิสเตอร์ท่านหนึ่งจึงดุบุษกรว่า

พูดอย่างนี้กับบราเดอร์ได้อย่างไร


บุษกรยิ้มและตอบซิสเตอร์ด้วยแววตาใสซื่อว่า

อ๋อ เป็นเพื่อนกัน

ผมหัวเราะก๊ากเลยครับ

ไม่โกรธน้องนะ เพราะเราเป็นเพื่อนกันจริงจริง

ถูกของบุษกรครับ

จริงอย่างที่พระเยซูว่า

เด็กแบบนี้แหละครับ เหมาะที่จะเข้าอาณาจักรสวรรค์ของพระองค์

มาคิดดู
ทุกวันนี้ ชีวิตของผมเจือปนไปด้วยหลายสิ่งมากมาย

ชื่อเสียง เกียรติยศ เงินทอง และอำนาจ

มารู้ตัวอีกที ตัวผมเองก็ไม่ใสเหมือนเด็กเด็กซะแล้ว

เพราะปรุงแต่งมามากมายเหลือเกิน

พระเยซูช่วยผมด้วยในการกลับไปมีจิตใสใสแบบเด็กด้วยนะครับ

วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2552

น้ำตก

สองสามวันที่แล้ว
มีโอกาสไปเที่ยวน้ำตกกับเด็กเด็กในหมู่บ้าน
ตามคำชักชวน ก็เค้าบอกว่า สูงและสวย
เราผู้ใหญ่สี่คนก็ชักขบวนเดินตามเด็กเด็กไป

แต่ปรากฏว่า
น้ำตกที่เห็นก็สูงจริงนะ
แต่ไม่ใช่ในมุมที่เราเคยเห็น
เพราะเป็นการมองจากมุมบนลงล่าง
ซึ่งสูงและสวยจริงอย่างเด็กเด็กว่า

แอบขำตัวเองนิดนิดว่า
ที่ผ่านมาเราเข้าใจผิดมาตลอดว่า
การมองน้ำตกจะต้องมองจากด้านล่าง
อันที่จริงมันต้องมองจากด้านบนต่างหาก
อย่างที่เด็กเด็กว่าจริงจริง

เพราะถ้าเราเห็นจากด้านล่างเราก็ไม่รู้ว่ามันสูงเท่าไร
แต่มองจากด้านบนของน้ำตกวันนั้น น้ำตกสูงจริง
ขอบใจน้องน้องที่สอนให้พี่รู้ว่า
การจะมองอะไรจากที่สูงไม่ใช่การมองจากข้างล่าง
แต่เป็นการมองจากข้างบนต่างหาก กิกิกิกิกิกิ
รักน้องน้องพวกนี้จังเลยยยยย