วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2551

รถเมล์

วันเสาร์ที่ผ่านมา...
มีเหตุให้ต้องอาศัยบริการของ ข.ส.ม.ก.
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต... (ไม่ใช่ขึ้นรถเมล์ครั้งแรกนะ)
ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเมล์ยาวนานกว่า 3 ชม.

อากาศก็ร้อน ฝุ่นควันก็เยอะ แถมผู้คนบนรถเมล์ที่ล้นหลาม
ที่กล่าวมานี้...ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับการเดินทางในรอบนี้
แต่...สิ่งที่ทำให้ต้องรู้สึกลำบาก คือ...
การจะต้องยืนบนรถเมล์เป็นเวลาสามชั่วโมง
ในสภาพที่ "ข้อเท้าของเราดันขึ้นตามราคาข้าว(ข้อเท้าแผลง)"

ในใจก็แอบคิดเหมือนกันว่า...
เรานี่บ้ารึเปล่า? ปวดขาแทบตาย
ยังทำตัวเป็นพระเอกลุกให้เด็ก สตรี และผู้อาวุโสนั่ง
ทั้งทั้งที่เราเองก็ได้นั่งตั้งแต่ต้นสายแล้ว
อีกใจก็คิดว่า...
ทำไงได้เราก็เป็นอย่างนี้ของเรามานานแล้ว

พอลงมาจากรถเมล์
น้องเยาวชนคนหนึ่งที่เดินทางไปด้วยกันก็เดินเข้ามาถามว่า...
"บราเดอร์ไม่เมื่อยเหรอ เห็นบ่นปวดขา
แล้วทำไมยังไปลุกให้คนอื่นนั่งอะ
เดี๋ยวนี้นะเด้อ เขาไม่จำเป็นต้องลุกให้นั่งแล้ว เท่าเทียม เท่าเทียม"
ในใจก็งงตัวเองเหมือนกัน แต่ตอบน้องคนนั้นไปว่า...
"ก้เด้อ..เกิดมาเป็นผู้ชาย เพื่อจะได้ลุกให้ผู้หญิงนั่งไงหละครับ"
"555 เน่าจริงจริงเลยอะเด้อ"
".........................." ไม่มีเสียงตอบจากผม (เพราะปวดขามากจริงจริง)

วันนั้นตอบไปแบบไม่คิดอะไร
แต่วันนี้มาคิด เฮ้ย เราตอบไปได้ไงว่ะเนี๋ย
เท่ห์อะ เทห์มากมาก (แอบชมตัวเอง)
คิดไปคิดมา ดูดูไป ตอนนี้เวลาขึ้นรถเมล์
มีผู้ชายน้อยคนเหลือเกินที่จะเอื้อเฟื้อให้เด็ก สตรี และผู้อาวุโสนั่ง
เพราะอะไรนะ...???

เป็นไปได้ไหมว่า พวกเราลืมกันไปแล้วว่า...
"เราไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อตนเอง..หากแต่เรามีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่นต่างหาก"
เหมือนกันพระองค์ผู้ทรงลงมาบังเกิดและตายเพื่อเรา...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น