วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

~ ที่ระบายใจ ~

ที่ระบายนี้
ไม่ใช่ส้วม หรือสุขาที่ไหน
ที่ระบายได้แค่ทุกข์ทางกาย

แต่ที่ระบายนี้
ระบายทุกข์ทางใจได้
แล้วทุกข์ที่ถูกปลดนี้ ก็ไม่ได้ส่งกลิ่นให้ใครต้องไม่สบายใจ

เชื่อว่า หลายคนคงเหมือนเราที่เคยมีบางเรื่อง หรือหลายเรื่องที่ยาก
จะระบายให้ใครสักคนฟัง แม้เป็นคนใกล้ชิดคุ้นเคย
ทุกข์ที่ไม่สามารถเล่าให้ แม้กระทั่งคนใกล้ตัวฟังได้
เพราะไม่อยากให้ใครคนนั้นต้องมาเป็นทุกข์เพราะความทุกข์ของเรา
หรือบางทีอาจจะเป็นความลับที่เราไม่อยากให้ใครรู้

เราเคยมี...

มีบางคนแนะนำว่าให้ไปเล่าให้สิ่งมีชีวิตชนิดไหนก็ได้
ที่ไม่ใช่คน (เป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งนะ ลองแล้ว)
อย่างเช่น สุนัข มันรับฟังเราแน่นอน
ที่สำคัญ มันไม่เอาเรื่องของเราไปเล่าต่อ

แต่สำหรับเรา
อีกวิธีที่ที่น่าจะดีกว่าคือ
การเล่าให้เขาฟัง เขาที่รักเราอย่างที่สุด
เขาซึ่งพร้อมจะฟังเราเสมอ ทุกที่ ทุกเวลา
ติดต่อเขาก็แสนจะง่าย ยิ่งกว่าผ่านเครื่องมือสื่อสารใดในโลก

เพียงแค่ เดชะพระนาม....พระบิดา..พระบุตร..และพระจิต..อาแมน
เสร็จแล้วก็เล่าเลย

วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

~ งานของใคร ~

บ่อยๆที่เรามักจะคิดว่า
งานที่เราทำ เราทำเพื่อพระเจ้าที่เรารักอย่างหมดหัวใจ

จนลืมไปว่า กิจการของพระที่แท้จริงแล้วนั้นเป็นอย่างไร
?
เพราะบ่อยๆเรามักจะคิดเอาเองว่า

พระคงต้องการให้เราทำอย่างนู้น อย่างนี้

ทั้งที่แท้จริงแล้วมันมาจาก น้ำใจของตัวเราเองหรือสิ่งที่เราอยากจะทำ

แล้วเราก็ยกหรืออ้างกิจการที่เรากำลังทำนี้เป็นกิจการของพระ

กิจการของพระต้องไม่นำมาซึ่งความแตกแยก
การแบ่งพรรคแบ่งพวก หรือ การขาดความรักต่อเพื่อนพี่น้อง

เพราะพระองค์คือองค์ความรัก(
Deus Caritus est)
ถ้างานหรือกิจการที่เรากำลังทำอยู่มีสิ่งเหล่านี้เกิดขี้น

น่าคิดว่า แท้จริงแล้วมันคือกิจการของพระ

หรือ ปีศาจ หรือตัวเรากันแน่

โอกาสของการเคารพศีลแห่งความเป็นหนึ่งเดียว
หรือศีลมหาสนิทที่ผ่านมา น่าจะทำให้เราได้ตระหนักในเรื่องนี้มากขึ้น

เพราะแม้พระเยซูเจ้าเองก็ทำอย่างนี้เช่นกัน โดยภาวนาว่า

ขออย่าให้เป็นไปตามใจข้าพเจ้า
แต่ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด
” (มธ.26 :39)

วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

~ ข้าวไข่เจียว ~

วันก่อนมีเพื่อนถามว่า ชอบกินอะไร?”
เราตอบว่า
ข้าวไข่เจียว
มันก็บอกว่า
ตอบดีดีดิวะ ชอบกินอะไร? ถามจริงๆนะโว้ย
เราก็ยืนยันคำตอบเดิม
ข้าวไข่เจียว

มันก็ถามย้ำอีกทีว่าชอบจริงๆเหรอ งั้นทำไม ถึงชอบกินข้าวไข่เจียววะ
คิดอยู่ในใจ เอ๊ะ อะไรของแก
แต่ก็ตอบมันไป “อืมม์... ชอบจริงๆ
ทำไม ชอบกินข้าวไข่เจียววะมันทำย้ำอีกรอบ
จำว่าตอบมันไปว่า
ก็ชอบ ก็แค่นั้น ไม่มีเหตุผลอะไรหรอก
เอาจริงๆดิวะ ทำไมชอบอะมันทำหน้าอยากรู้มากๆ
ผมคิดในใจว่าอะไรคือเหตุผลที่ชอบ
??
แต่คำตอบก็มีคำตอบเดียวว่า ชอบเพราะชอบ
แล้วเพื่อนมันก็ถามแบบเดิมอยู่สามสี่รอบ เราก็ตอบมันไปแบบเดิม

แล้วอยู่ดีดีมันก็ว่าเราขึ้นมาเฉยๆ
เอ็งชอบอะไรไม่มีเหตุผลให้ชอบได้ไงวะ
คิดจะตอบมันไป แต่กลัวจะไปต่อความยาวสาวความยืดอีก เราก็เลยเฉยๆไป

ความในใจคิดจะตอบมันคือว่า...
จำเป็นต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ ในการที่จะรักหรือจะชอบอะไรสักอย่าง

เหตุผลที่มี มันเกิดจากการตั้งเงื่อนไขที่เราตั้งขึ้นไม่ใช่หรือ
???
แล้วรักที่มีเหตุผล ก็เป็นรักที่มีเงื่อนไขไม่ใช่หรือ
???
ถ้าจะรักเพราะมีเหตุผล แล้วรักนั้นจะเป็นรักที่บริสุทธิ์จริงๆเหรอ

ความรักอย่างมีเงื่อนไข เป็นรักที่อิสระหรือเปล่า???
ถ้าวันหนึ่ง ไม่มีเหตุผล หรือหมดเงื่อนไข ก็ไม่รักกันแล้วหรือ
???

คนอื่นจะยังไงไม่รู้
แต่สำหรับผมคิดว่า...
น่าจะปล่อยให้หัวใจมันได้ทำหน้าที่ของมันบ้าง

แบบที่ไม่ต้องมีปัญญาเข้ามาบังคับกันดีกว่า

และสูงไปกว่านั้น ผมเชื่อว่า
ความรักแบบที่พระรักเราไม่เคยมีเหตุผลหรอกครับ
เพราะพระรักเราอย่างที่เราเป็น

และรักในแบบที่เป็นตัวเรา ในแบบเฉพาะของเราแต่ละคน

โดยไม่เคยที่จะตั้งเงื่อนไขต่างๆกับเรา หรือนำเราไปเปรียบเทียบกันคนอื่นๆ
เพราะเราคือเรา และเราคือผู้ที่พระองค์ทรงรักอย่างปราศจากเหตุผลจริงๆ

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

~ ฝี และ เล็บขบ... ~

ตอนนี้เป็นฝีในที่ที่ไม่คิดว่าจะเป็น
เฮ้อ!! นั่งก็ลำบาก จะยืนฝีก็ตึงจนปวด
ต้องไปซื้อกอเอี๊ยะแผ่นละสองบาทมาติดแก้ปวด


วันก่อนก็เป็นเล็บขบ
ทำให้เล่นกีฬาไม่ได้ไปพักใหญ่ๆ
ต้องแงะเล็บจนเลือดสาด ทะลัก

เวลาที่ไม่เจ็บไปไม่ปวด
เราก็ไม่เคยสำนึกถึงการมีอยู่ของมัน
ก็ทั้งที่... และนิ้วเท้านั่นแหละ

คงเหมือนกับเวลาที่เรามีใครสักคนแล้วดูแล
เขาได้ไม่ดีหละมั้ง ไม่ได้สนใจและรับรู้ว่ามีเค้าอยู่
จนกระทั่งวันหนึ่งที่ต้องมาเจ็บปวดเมื่อเค้าจากไป

แล้วพระองค์เล่า จะเสียใจแค่ไหนถ้าลูกคนหนึ่งของพระองค์
หันหลังให้กับพระองค์แล้วเดินจากไป

วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

~ คนดี 365 วัน ~

คนดีจะต้องทำสิ่งที่ดี ที่ถูก ที่ควร ตลอดทั้ง 365 วันจริงๆ หรือ??
แล้วถ้าคนดีทำผิดสักครั้ง ยังจะเป็นคนดีอยู่หรือเปล่า
??

คำถามฟังดูโง่ๆ เหมือนจะไม่ได้คิดก่อนถาม
แต่..
ที่ผ่านมาก็ยังมีบางคน ที่คิดว่าแม้สักครั้งที่ผิดพลาดก็หมายความว่าดีไม่จริง
อยากรู้จังว่าที่เขาคิดว่า
เขาเป็นคน(ที่คิดว่าตัวเอง)ดี(กว่าผู้อื่น)มองผู้อื่นด้วยสายตาแบบไหนกัน

อยากรู้จังว่า...
คน(ที่เรียกว่าตัวเอง)ดี(กว่าผู้อื่น)อย่างเขานั้น
ใช้อะไรเป็นมาตราวัดสิ่งดีในชิวิตผู้อื่นนะ

แล้วสายตาแบบไหน
?? ที่เขาใช้มองตัวเองนะ

ถ้าต้อง FAKE ให้(คนอื่นดูว่าเรา)เป็นคนดี ทั้ง 365 วัน
กับต้อง
FACT ในแบบที่เราเป็น แต่อาจจะไม่ถูกใจใครบางคนบ้าง

พี่น้องที่เคารพครับ...
ถ้าต้องเป็นคนดีดีแบบที่มันบอก

ขอเป็นคนที่อาจมีผิดมีพลาดตามประสามนุษย์ในแบบของผมดีกว่าครับ

วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

~ 3 ปีที่รู้จักกัน ~

เมื่อวานเพื่อนคนหนึ่งโทรมาหา
บอกว่าสุขสันต์วันครบรอบ
3ปี
รู้จักคนๆหนึ่งมาสามปี นานไหม
??

สามปีที่รู้จักกัน
ไม่รู้ว่ารู้จักกันมากแค่ไหน
??
แต่รู้ว่ารักเพื่อนคนนี้มากๆๆ

แล้วก็รักมาจริงๆๆ

ทำให้คิดว่าแล้วพวกศิษย์ที่อยู่กับพระเยซู(เกี่ยวไปได้เนอะ)
จะรู้สึกยังไงบ้าง
?? ถ้ารู้จักพระองค์มาสามปี
ขนาดเรากับเพื่อนไม่ค่อยใกล้ชิด ตัวติดกัน อยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน

ยังคิดว่า เพื่อนคนนี้จะไม่มีใครแทนที่เขาได้

แล้วพระองค์กับศิษย์ของพระองค์หละ???
อยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน กิน+นอน+เดินทางไปไหนมาไหนด้วยกัน

คงใกล้ชิดกันมากกว่าเราอีก
จะรักกันมาขนาดไหนนะ???
คิดไปคิดมา ถึงจะรักกันขนาดนั้น ก็ยังมีบางคนที่ทรยศพระองค์ได้
!!!
เฮ้อ
!! งั้นก็คงธรรดามั้ง ถ้าเราจะทำให้เพื่อนเราโกรธบ้างอะนะ

จะยังไงก็เถอะ สิ่งที่น่าดูชมมากกว่านั้น คือ
ขนาดเพื่อนรักหักหลัง เอากันถึงตาย

พระองค์ก็ยังคงรัก รัก รัก และรัก

จนยอมที่จะให้อภัย ที่สุดยอมตายเพื่อไถ่เขาด้วย

น่าคิดน่าคิด
แล้วเราจะทำได้บ้างเปล่าว้า
!!!
ทฤษฎีอะมีเยอะเหลือเกิน แต่ลงมือทำไม่ได้สักที
เฮ้อ
!!??!! จะตามพระองค์ต่อไป ต้องออกแรงเยอะมากเลยนะเนี่ยะ

วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

~เวลาขนาดไหนดีอะ~

เคยสงสัยเหมือนกันว่า
ถ้าต้องเสียใจกับรักที่เสียไป
จะต้องใช่เวลาเท่าไร???
เพื่อกลับมาเป็นตัวของตัวเอง


แต่คำตอบที่มีอยู่ในหัว
บอกว่า...
คงจะต้องพอๆกับที่เราได้ใช้ไปกับคนๆนั้นใช่หรือเปล่า
ออกจะเป็นคณิตศาสตร์ไปหน่อย
แต่ว่า...
ก็น่าจะจริงนะ


แต่จะยังไงก็แล้วแต่
ความรักก็ยังงดงามเสมอ
รักที่แท้ไม่ได้ถูกจำกัดด้วย เวลาและสถานที่
และที่สำคัญ รักไม่เคยทำร้ายใครด้วย


ใครเห็นด้วยยกมือขึ้น
ยกกันให้พรึ่บเลย
5555555555555555555

บ้าไปแล้ว!!!~

วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

~ปรัชญาจีน~

วันเรียนปรัชญาจีน
อาจารย์ให้ดูหนังจีน
เป็นเรื่องในรั้วในวัง กับความรักของจีน
ดูจบ ก็จบแบบงงๆ
ไม่รู้ที่สุดแล้ว ใครฆ่า และใครดีใครเลว

แต่..
ที่ได้จากทั้งเรื่อง
มีแค่ประโยคเดียว

เปลี่ยนทุกอย่างได้หมด แต่สิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนคือ หัวใจ

เลี่ยนๆยังไงไม่รู้ แต่ชอบนะ
เหมือนจะจริงๆ ยังไงไม่รู้

วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

~การมี การเป็น~

บางคนว่า...
การเป็น สำคัญกว่า การมี
เพราะว่ามี เป็นเรื่องของคุณค่าวัตถุภายนอก
แต่การเป็น เป็นเรื่องของคุณค่าภายใน

ถ้าอย่างนั้น...
มีหรือไม่มี อะไรที่เกิดสุข
เป็นหรือไม่เป็น อะไรที่เกิดสุข
มีหรือเป็น อะไรดีที่สุด

ถ้าต้องมีแล้วเป็นสุข
ไม่มีก็คงเป็นทุกข์
แล้วทำไม บางคนไม่มี ไม่เห็นทุกข์

แล้วถ้าต้องเป็นจึงเป็นสุข
ไม่เป็นก็คงไม่สุข
แล้วทำไมบางคนดูมีความสุข

แล้วสุขอยู่ที่ไหน???
อยู่ที่เป็น หรือมี

หรือว่าสุขจะอยู่ที่เรา